Last updated: 17 พ.ย. 2565 | 819 จำนวนผู้เข้าชม |
การทำงานออกแบบการก่อสร้างนั้นจะเกี่ยวข้องกับผู้ออกแบบหลายฝ่าย ซึ่งมีความแตกต่างกันทั้งในด้านวิธีการทำงาน มุมมอง เทคนิค เป็นต้น แต่ผู้ออกแบบทุกฝ่ายจะต้องนำแบบมารวมเพื่อตรวจสอบว่าสามารถนำไปใช้ก่อสร้างได้จริง ซึ่งขั้นตอนนี้มีความยุ่งยากเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่มีความซับซ้อนสูงที่ต้องการความร่วมมือจากผู้ออกแบบในการประสานงานให้เข้าใจตรงกัน ตัวอย่างเช่น วิศวกรต้องออกแบบการติดตั้งเครื่องตรวจจับควัน หัวฉีดน้ำป้องกันเพลิงไหม้ อุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ แต่ผู้ออกแบบงานตกแต่งภายในต้องการความสวยงาม ดังนั้นการผสานแบบต่างๆ เพื่อดูผลว่าแบบที่รวมกันนั้นกระทบการออกแบบด้านใดบ้างจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก
ในช่วงการพัฒนาแบบนั้น ผู้ออกแบบ ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้าง สถาปัตยกรรม งานระบบประกอบอาคาร งานตกแต่งภายใน ฯลฯ ต้องผสานแบบเข้าด้วยกัน (Combine) เพื่อทำการตรวจสอบว่าแบบมีความขัดแย้งกันไหม ซึ่งเทคโนโลยี BIM ซึ่งทำการออกแบบและผสานงานออกแบบเป็น 3 มิติ ได้เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากในการแก้ปัญหาในส่วนนี้
อย่างไรก็ ในเวลานี้ BIM นั้นยังไม่ได้ใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย ผู้ออกแบบหรือเจ้าของโครงการจึงยังดำเนินการออกแบบโดยใช้เป็นภาพ 2 มิติ อยู่ และ ต้องนำแบบมาซ้อนกันโดยการใช้ AutoCad หรือ ตรวจสอบจากแบบที่เป็น PDF ซึ่งมีความเสี่ยงของความผิดพลาดสูงเนื่องจากใช้สายตาของคนในการตรวจสอบ ซึ่งจะมีผลกระทบอย่างมากในช่วงเวลาการก่อสร้างทั้งในด้านต้นทุน เวลา และคุณภาพของงาน
Procore ได้คิดค้นการซ้อนแบบก่อสร้างอัตโนมัติ (Automatic Drawing Overlaying) เพื่อช่วยลดปัญหาแบบขัดแย้งของการออกแบบต่างๆ ที่ช่วยตรวจสอบจุดขัดแย้งของแบบที่เป็น PDF เช่น การชนกันของท่อและคาน เสาของโครงสร้างใหญ่กว่าในแบบของงานสถาปัตกรรม เป็นต้น เพื่อให้ผู้ออกแบบสามารถแก้ปัญหาและทำการปรับแบบได้สะดวกรวดเร็ว ลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างผู้ออกแบบ เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น และลดปัญหาในระหว่างการก่อสร้าง โดยเฉพาะโครงการที่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยี BIM
หากสนใจผลิตภัณฑ์ของ Procore สามารถติดต่อได้ที่บริษัท พรอพเพอร์ติสท์ จำกัด พันธมิตรของ Procore อย่างเป็นทางการ ติดต่อ
คุณเอการี่ โทรศัพท์ 095-815-3672 หรือ email: akary@propertist.co.th
คุณญาณิศา โทรศัพท์ 081-254-1111 หรือ email: yanisa@propertist.co.th